The Road in The Sky

เรื่องไม่ลับอาชีพนักบินกับสาระเบาๆเพื่อนักเดินทาง

สิ่งที่อยากให้ทุกคนอ่าน

สิ่งที่อยากให้ทุกคนอ่านเมื่อขึ้นเครื่องบิน ผมขอเขียนถึงสิ่งที่อยากให้ทุกคนรู้ ตามมุมมองของนักบินนะครับ สิ่งแรกที่นักบินนึกถึงก่อนเสมอเวลามีเหตุการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้นคือ ความปลอดภัยของชีวิตคนทุกคนบนเที่ยวบิน “Safety is the first priority” ครับ ค่อย ๆ อ่านนะครับ เพื่อจะได้เห็นความสำคัญและมุมมองที่ต่างออกไปครับ ลูกเรือ (Crew) ตามกฏหมายระบุให้มีสัดส่วนจำนวนไม่น้อยกว่า 1 คน ต่อผู้โดยสาร 50 คน นั่นคือกฏเกณฑ์สากล คิดง่ายๆโดยเทียบกับจำนวนที่นั่งที่มีอยู่บนเครื่องหารด้วย 50 เหลือเศษให้ปัดขึ้น เช่น B747-400 ของการบินไทย มีที่นั่งทั้งหมด 375 ที่นั่ง ต้องมีลูกเรืออย่างน้อย 8 คนเป็นต้น สายการบินที่เน้นด้านความปลอดภัยและการบริการในระดับสูง (Premium Airline) จะมีการกำหนดจำนวนลูกเรือขั้นต่ำไว้เกินกว่าที่กฏหมายกำหนด เพื่อให้การบริการและการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้โดยสารในกรณีฉุกเฉินทำได้อย่างทั่วถึงรวดเร็วขึ้น อย่าง B747-400 ก็จะใช้ลูกเรือ 14-18 คนแล้วแต่เส้นทางและลักษณะการบริการ เป็นต้น และต้องมีที่ประจำตำแหน่งของลูกเรือแต่ละคน ซึ่งกระจายไปทั่วๆ ตลอดลำตัวของเครื่องบินทั้งชั้นบนและชั้นล่างของห้องโดยสาร โดยเฉพาะช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุสูงอย่าง การวิ่งขึ้น (takeoff) และการร่อนลงสู่สนามบิน (landing) ลูกเรือทุกคนจะต้องอยู่ประจำตำแหน่งที่นั่งของตนเองเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด (เราเรียกว่า unprepared emergency) แม้ว่าสายการบินหลักๆ จะเพิ่มจำนวนลูกเรือให้มีมากกว่ามาตรฐานเพื่อรองรับการดูแลผู้โดยสารให้ทั่วถึงแล้วก็ตาม แต่ในสถานการณ์หรือ สภาพเหตุการณ์บางเหตุกาณ์ที่ผู้โดยสารทุกคนจำเป็นต้องช่วยเหลือและดูแลตนเองและบุคคลใกล้ชิดเป็นการฉุกเฉินก่อน จนกว่าลูกเรือจะสามารถเข้ามาช่วยเหลือได้ อย่างเช่น ระหว่างบินระดับ หากเครื่องบินสูญเสียระบบควบคุมความดันอากาศฉับพลัน (Rapid Decompression) (ระบบควบคุมความดันอากาศภายในห้องโดยสารเรียกว่า Pressurization control system) ผู้โดยสารทุกคนจะต้องช่วยตัวเองด้วยการใช้ระบบออกซิเจนฉุกเฉิน (emergeny […]

ไปไกล ๆ

ไปไกล ๆ ไม่ได้จะไล่ใครให้ไปไหนไกล ๆ หรอกครับ แต่ชีวิตนักบินมักเป็นการเดินทางไกลอยู่เสมอ ใกล้หน่อยก็ภายในประเทศ แต่ก็ถือว่าไกลอยู่ดีถ้าเทียบกับการเดินทางแบบอื่น การบินในประเทศ ภาษาชาวการบิน เรียกว่า Domestic Flight ถ้าไปไกลหน่อยก็ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน อินเดีย ซึ่งเป็นประเทศในภูมิภาคเดียวกันกับประเทศไทย เราเรียกเที่ยวบินประเภทนี้ว่า Regional Flight (Region แปลว่า บริเวณ ส่วน,แถบ,ดินแดน,แคว้น,ภูมิภาค,เขตการปกครอง,ขอบเขต, ปริมณฑล) regional flight รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านด้วย อย่าง เมืองย่างกุ้ง อยู่ใกล้กับกรุงเทพฯ มากกว่า เชียงใหม่ ภูเก็ต แต่ถือเป็นเที่ยวบินต่างประเทศ เป็น regional flight ครับ ถ้าไปไกล ๆ เลย ข้ามน้ำ ข้ามทะเล ข้ามทวีป เราเรียกว่า Inter-Continental Flight หรือสั้น ๆ ก็ Inter-Con Flight การแบ่งการเรียกเที่ยวบินแบบข้างต้นนั้น เป็นการแบ่งแบบการใช้ภูมิภาคเป็นตัวกำหนด แต่ถ้าแบ่งโดยใช้ระยะเวลาที่ทำการบินมาเป็นเกณฑ์ จะเรียกเป็น Short-Haul, Medium- Haul และ Long-Haul Flight ครับ (ตอนหลังมี Ultra Long-Haul อีก) หลักเกณฑ์ในการกำหนด short, medium หรือ long […]

Walk Around Check by Pilot

Walk Around Check by Pilot Walk around check คือ การเดินตรวจสภาพกายภาพของเครื่องบินโดยนักบินก่อนทำการบินปกติในทุกๆเที่ยวบิน เป็นการตรวจความพร้อมของเครื่องบินก่อนออกเดินทาง  ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง ทุกเที่ยวบิน เครื่องบินจะต้องได้รับการตรวจเช็คสภาพความพร้อมทั้งภายนอกและภายในด้วยการตรวจเช็คการทำงานของระบบต่างๆ ทั้งจาก ช่างเทคนิค (Licensed Aircraft Engineer) นักบิน และพนักงานต้อนรับ โดยแบ่งความรับผิดชอบในการตรวจสอบแตกต่างกันไป โดยกัปตันเป็นคนตรวจรับความพร้อมของเครื่องบินก่อนทำจะอนุญาตให้ทำการนำผู้โดยสารขึ้นเครื่องบิน (Passenger Boarding)  ทุกๆ ครั้งที่เครื่องบินเข้ามาจอด ช่างต้องต้องทำการตรวจสภาพภายนอกของเครื่องบินในทันทีที่เครื่องบินจอดสนิทและดับเครื่องยนต์แล้ว ส่วนนักบินที่นำเครื่องบินเข้าจอดจะเขียนรายงานสภาพของระบบการทำงานต่างๆว่ามีระบบใดที่ทำงานผิดพลาด ผิดปกติ หรือไม่ทำงานหรือไม่ โดยบันทึกลงใน สมุดปูมเดินทาง (Aircraft Log) ชึ่งจะบอกรายละเอียดของข้อบกพร่องต่างๆในแต่ละระบบที่เกิดขึ้นระหว่างเที่ยวบิน เพื่อที่ทางช่างจะได้ทำการซ่อมบำรุงให้มีความสมบูรณ์พร้อมก่อนที่จะออกเดินทางอีกครั้งหนึ่ง ระหว่างที่เครื่องจอดพักนั้น ก็คือช่วงเวลาในการทำงานของช่างเทคนิคในแต่ละส่วนที่จะเข้าตรวจสอบระบบของเครื่องบิน ถึงแม้ว่านักบินอาจไม่ได้ลงบันทึกข้อบกพร่อง (snag) ไว้ใน Aircraft Log ทางช่างก็ต้องทำการตรวจสอบตามรายการ (checklist) ที่ต้องทำทุกครั้งก่อนเครื่องขึ้นบิน โดยทุก ๆ 24 หรือ 48 ชั่วโมง ต้องมีการตรวจสอบใหญ่หนึ่งครั้งเสมอ

เครื่องยนต์ดับ

เครื่องยนต์ดับ ให้เดาสาเหตุที่ทำให้เครื่องยนต์ดับกลางอากาศ พร้อม ๆ กันหลายเครื่องยนต์ เน้นว่า พร้อม ๆ กันหลายเครื่องยนต์อย่างกรณีของสิงคโปร์แอร์ไลน์ SQ836 ที่มีข่าวออกมาว่า เครื่องยนต์ดับที่ความสูง 39000 ฟุต แล้วติดเครื่องยนต์ขึ้นใหม่ได้ที่ความสูง 13000 ฟุต ด้วยความเห็นส่วนตัว การที่เครื่องยนต์ดับพร้อม ๆ กันนั้นไม่น่าเกิดจาก mechanical failure ของตัวเครื่องยนต์เอง เพราะโอกาสที่จะเกิดความผิดปกติจากกลไกของเครื่องยนต์พร้อม ๆ กันเกินกว่าหนึ่งเครื่องยนต์เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นยากมากในทางสถิติ ระบบอื่น ๆ ที่มีโอกาสทำให้เกิดเครื่องยนต์ดับพร้อม ๆ กันก็มี แต่ก็ยากมากที่จะเกิดแบบนั้นเช่นกัน ระบบน้ำมัน (fuel) ระบบน้ำมันนั้น มี back-up ในตัวระบบจ่ายน้ำมันอยู่หลายชั้น เรียกว่า มี Redundancy ในตัวระบบเยอะ รวมทั้งหลักการแยกจ่ายน้ำมันด้วย pressure pump ของแต่ละเครื่องยนต์ ถ้าระบบของเครื่องยนต์หนึ่งมีปัญหา ระบบของอีกเครื่องยนต์หนึ่งก็สามารถจ่ายทดแทนได้ หรือแม้กระทั่ง ระบบ pressure pump เสียหมด ก็ยังสามารถเป็น gravity feeding (เฉพาะเครื่องยนต์ที่อยู่ต่ำกว่าถังน้ำมัน เครื่องบางรุ่นมีเครื่องยนต์อยู่สูงกว่าถังน้ำมัน จะพึ่งพาระบบ gravity feeding ไม่ได้) แต่ถ้าเป็นปัญหาจากตัวน้ำมันที่สกปรก (contaminated) จนทำให้ไส้กรองน้ำมันเกิดตัน ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะระบบจะเตือนว่า “Fuel Filter” มีปัญหา ซึ่งกรณีนี้ นักบินต้องรีบหาสนามบินใกล้ ๆ เพื่อลงจอดให้เร็วที่สุดก่อนเครื่องยนต์จะมีปัญหา  ดังนั้นถ้าเป็นกรณี […]

Airmanship ฉบับโสภณ

Airmanship ฉบับโสภณ คำว่า Airmanship แปลตามพจนานุกรม หมายถึง ทักษะ ความรู้ ประสบการณ์ และวิธีการทำงานที่ทำให้การควบคุมเครื่องบินมีความปลอดภัย อันนี้ผมพยายามแปลตรง ๆ ดู ตามหนังสือเขาว่าไว้ว่า Airmanship ประกอบไปด้วย 3 ส่วนคือ ทักษะในการทำงานและรวมถึงความรู้ในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการบิน (Skill) ความเชี่ยวชาญหรือประสิทธิภาพในการทำงาน รวมถึงความสามารถในการนำความรู้ไปใช้งาน (Proficiency) และความมีระเบียบวินัยในการปฏิบัติงาน (Discipline) ผมว่าเขียนตามหลักวิชามันน่าเบื่อ เหมือนเอาหนังสือมาแปลให้อ่าน เขียนตามความเข้าใจและที่อยากให้คนอ่านเข้าใจดีกว่า (ว่าแล้วก็ปิดตำรา และมาต่อกันที่ความเข้าใจส่วนตัวละกันครับ) ถ้าจะให้อธิบายความหมายจากความรู้สึกส่วนตัวจริง ๆ ไม่อิงตำราหรือหนังสือที่ไหน Airmanship ผมขอแปลว่า  “กึ๋น” ครับ สั้น ๆ เลย Airmanship มันคือ กึ๋นในการทำงานของนักบิน มันเป็นตัวบอกว่า นักบินคนนั้น เป็นนักบินที่ดีหรือไม่ มีการทำงานที่มีช่องโหว่แห่งอุบัติเหตุหรือไม่ จริง ๆ การบินเป็นอะไรที่ง่ายและไม่ซับซ้อน ถ้ารู้และเข้าใจ รวมทั้งรู้ศักยภาพของตัวเองด้วย (อันสุดท้ายนี่สำคัญมาก) การบินเพื่อให้ทุก ๆ เวลามีความเสี่ยงภัยน้อยที่สุด หรือลดดีกรีความรุนแรงของปัญหาให้เร็วที่สุดและมากที่สุด การบินเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย และมีความซับซ้อนมากที่สุดเช่นกัน โดยเฉพาะกับนักบินที่ยังขาด Airmanship ที่ดี และอีกพวกคือพวกที่มีความมั่นใจไร้สติ (Overconfidence) พวกนี้มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุมากที่สุด เพราะอาจจะทำอะไรที่เป็นการแหกกฏ โดยรู้อยู่แก่ใจ หรือบางกรณีคือ ไม่รู้ (โง่) แต่ก็ยังทำลงไปได้เพราะมั่นใจว่าฉันทำได้ การรู้น้อย ไม่ผิดครับ แต่รู้น้อยแล้วดันทะลึ่งไม่ยอมรับสภาพตัวเอง อันนี้มีความเสี่ยงเกิดขึ้นมากทันที การบิน เป็นเรื่องของการตัดสินใจในการทำงาน การตัดสินใจในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าหรือ การตัดสินใจที่จะพาตัวเองออกจากปัญหา การยอมรับปัญหาด้วยการ terminate mission นั้น ๆ […]

0
0