Contrails เป็นคำย่อมาจากคำว่า “Condensation Trails”
Trail ในที่นี้หมายถึง “ร่องรอยที่ทิ้งไว้ให้ตามได้ ประมาณว่า รอยทางเดิน แบบนั้น”
ตรงคำว่า trail มักจะเติม s เพราะการเกิดของ contrail มักมีมากกว่าหนึ่งเส้น ก็เครื่องบินพาณิชย์บินสูง ๆ จะต้องมี สองเครื่องยนต์ เสมอ
บางคนเข้าใจผิดใช้คำว่า tail ที่แปลว่า หาง ต้องใช้คำว่า Trail สะกดแบบเดียวกับ วิ่งเทรล Trail Running
Contrails เกิดจากไอน้ำที่พ่นออกมาจากส่วนท้ายของเครื่องยนต์ ส่วนที่เป็นไอพ่นจะพ่นไอน้ำที่เป็นของเหลือจากการเผาไหม้ออกมา ไอน้ำที่พ่นออกมานั้นเกิดการควบแน่นเมื่อเจอกับอากาศภายนอกที่อุณหภูมิต่ำมากๆ จึงกลายเป็นน้ำแข็งลอยอยู่ในอากาศ ลอยเป็นทางยาว จนบางครั้งเกิดเป็นก้อนเมฆชนิดที่เป็นริ้ว เรียกว่า เมฆหางม้า หรือ Cirrus (รากศัพท์คำว่า Cirrus นั้นแปลว่า ลอนผม และเมฆ Cirrus ไม่ได้เกิดจาก Contrails เพียงอย่างเดียว)
ดูภาพจาก Airservice Australia
http://www.airservicesaustralia.com/aircraftnoise/aircraft-operations/9518-2/
หนังสือ A Pilot Book ทั้ง 5 เล่ม ราคา 1999 บาท ค่าส่ง 70 บาท
สั่งทาง Shopee
มีบริการเก็บเงินปลายทาง
ราคาหนังสือแต่ละเล่ม (รวมค่าส่งแล้ว)
A Pilot เล่มแรก ปกดำ ราคา 479 ฿
A Pilot Part II ราคา 349 ฿
A Pilot Part III ราคา 379 ฿
Aviation A-Z ราคา 429 ฿
20000 Hours 549 ฿
อุณหภูมิของอากาศภายนอกเครื่องบิน เวลาที่เครื่องบินบินอยู่ที่เพดานบินประมาณ 40,000 ฟุต อาจติดลบมากถึง -65 องศาเซลเซียส โอกาสที่อุณหภูมิจะติดลบถึง 70 องศาเซียลเซียสก็เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะเมื่อ standard deviation of temperature นั้น มากกว่า -20 องศาเซลเซียส ในช่วงฤดูหนาวแบบตอนนี้
Contrails แบบในรูปเป็น contrail แบบแรก คือ เกิดจากไอน้ำที่เป็นของเหลือจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงที่เครื่องยนต์พ่นออกมาที่ด้านท้ายแล้วควบแน่นเป็นน้ำแข็ง กลายเป็นเมฆเป็นทางยาว ๆ เราเรียกมันตามลักษณะการเกิดว่า engine exhaust gas contrails ถือเป็น contrails สามัญประจำบ้าน เกิดมากในที่สูง ๆ เวลาเรามองไปบนฟ้าก็จะเห็นเป็นเส้น ๆ ยาว ๆ พาดกันไปมาเต็มไปหมด โดยเฉพาะฤดูหนาวแบบนี้ ท้องฟ้าในยุโรป หรืออเมริกาเหนือ จะมีเส้น contrails พาดกันเต็มไปหมด
มาถึงแบบที่สอง เป็น Contrails ที่เกิดจากการควบแน่นเนื่องจากการเปลี่ยนสภาพความดันอากาศแบบฉบับพลันเพราะเครื่องบินบินผ่าน
อันนี้เรียกว่า aerodynamic contrails ซึ่งจะเกิดให้เห็นได้ที่ความสูงต่ำๆ ที่มีความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศค่อนข้างสูง อย่างเช่นตอนที่เครื่องบินกำลังทำการวิ่งขึ้น takeoff หรือร่อนลงจอด landing
Contrails ทั้งสองแบบ มีการเกิดที่แตกต่างกัน แต่ให้ผลที่เกือบเหมือนกันคือ ความชื้นบริเวณนั้นเกิดการควบแน่นกลายเป็นก้อนเมฆให้เห็นชั่วคราว แต่ aerodynamic contrail นั้นมักเกิดและคงอยู่แค่ช่วงเวลาอึดใจเดียวเท่านั้น ส่วน contrails อันหลักนั้นบางทีก็เกิดขึ้นแล้วชั่วครู่ก็สลายไป แต่บางทีก็อยู่นานเป็นชั่วโมงๆ
“บินเข้าไปใน contrails อันตรายไหม”
ปกตินักบินจะไม่บินเข้าไปใน contrails ของเครื่องลำหน้าครับ อันตรายเพราะมีโอกาสที่จะทำให้เกิดการสั่นสะเทือน (turbulence) อย่างรุนแรง เหมือนบินเข้าใน wake turbulence นั่นเอง (อ่านเรื่อง wake turbulence ในหนังสือ A Pilot Book ครับ)
ยังมี trails อีกประเภทหนึ่ง เป็น trails ที่เกิดกลับด้านกัน เป็นการหายไปของก้อนเมฆเนื่องจากเครื่องบินบินผ่านเข้าไป เมฆก้อนนั้นจะกลวงเป็นรู หรือถูกสลายไปตามทางที่เครื่องยนต์ของเครื่องบินบินผ่าน เราเรียกตามลักษณะที่ทำให้เกิดว่า Dissipation trails (dissipation แปลว่า การสลายตัว) หมายความว่า มันไม่ได้ทำให้เกิดก้อนเมฆแต่มันทำให้ก้อนเมฆหายไป เราเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “Distrails”
Distrails นั้นเกิดขึ้นไม่บ่อย ทำให้มีโอกาสที่จะได้เห็นน้อย หาดูยาก ผมเองเคยเห็นแต่ไม่ทันได้มีโอกาสถ่ายรูปเก็บไว้
ดูรูปนี้จาก wikipedia ครับ distrail ที่เกิดขึ้นบริเวณน่านฟ้าฮ่องกง ถ่ายไว้เมื่อปี 2012
เครดิตภาพ https://commons.wikimedia.org/wiki/User:Earth100
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
http://www.airservicesaustralia.com/aircraftnoise/aircraft-operations/9518-2/
https://en.wikipedia.org/wiki/Contrail
ดาวน์โหลดเอกสารเรื่อง Contrails จาก NASA
https://www.nasa.gov/sites/default/files/atoms/files/contrails_k-12.pdf
- เครื่องยนต์ใหม่ของเครื่องบิน บี-52
- คนขนกระเป๋าล่าฝันการเป็นนักบินจนสำเร็จ
- วิศวกรโบอิ้ง ทำลายสถิติโลก เครื่องบินกระดาษ
- ฟ้าผ่า เครื่องบินเป็นรูขนาดใหญ่
- ปริศนาการหายไปของเครื่องบินโบอิ้ง 777 เที่ยวบิน MH370