ป่วยแบบไหนที่ไม่ควรเดินทาง


โดยปกติแล้ว คนป่วยหรือมีปัญหาสุขภาพมักไม่อยากบอกใครว่าตนเองเจ็บป่วยหรือไม่สบาย จริงอยู่มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะต้องประกาศบอกใคร ๆ ว่าเราป่วยใช่ไหมครับ 

แต่สำหรับการเดินทางโดยเครื่องบินไม่เป็นอย่างนั้นครับ
ผู้โดยสารที่ป่วยหรือมีปัญหาสุขภาพควรแจ้งให้สายการบินรับทราบตั้งแต่การทำการซื้อตั๋วเพื่อเดินทาง หรืออย่างน้อย 48 ชม.ก่อนเดินทางครับ

ผู้โดยสารอาจจะไม่ทราบข้อจำกัดในการเดินทางทางอากาศ 

ไม่ทราบว่าอาการป่วยหรือไม่ปกติบางอย่างนั้นอาจจะเกิดอันตรายหรืออาการป่วยนั้นเพิ่มความรุนแรงขึ้นได้ระหว่างเดินทางเพราะเครื่องบินเมื่อมีการไต่ระดับ หรือลดระดับ จะมีการปรับระบบความดันอากาศภายในห้องโดยสารตลอดเวลา

โดยหลักการแล้วรายละเอียดเกี่ยวกับปัญหาข้อจำกัดในการเดินทางนั้นจะมีข้อกำหนดมากมาย มีคู่มือกำกับเป็นหลายๆ เล่ม โดยผู้ที่สามารถวินิจฉัยได้ว่าสามารถเดินทางได้โดยปลอดภัยหรือไม่นั้นคือ แพทย์เท่านั้นครับ 

ทางสายการบินจะสามารถทำได้แค่เพียงป้องกันไม่ให้ผู้โดยสารได้รับอันตรายจากการเดินทาง นั่นก็คือ การปฏิเสธไม่ให้ผู้โดยสารเดินทางหากไม่มีหลักฐานทางการแพทย์

“สายการบินไม่สามารถอนุญาตให้เดินทางโดยที่ไม่แน่ใจว่าผู้โดยสารจะปลอดภัยหรือไม่ 

หน้าที่เราคือ พาท่านเดินทางไปสู่จุดหมายด้วยความปลอดภัย”

ดังนั้นเวลาที่ป่วยหรือมีโรคประจำตัวหรือเพิ่งผ่านการผ่าตัดมา
โดยเฉพาะเมื่อสภาพร่างกายสามารถสังเกตุได้ชัดเจนด้วยสายตาว่า มีความผิดปกติ หรือ ป่วย 

ขอให้มีใบรับรองแพทย์มาแสดงด้วยเสมอครับ

สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคติดต่อที่อาจจะสามารถแพร่กระจายเชื้อให้ผู้อื่นได้ สายการบินจะไม่อนุญาตให้เดินทาง

ผู้ป่วยที่ไม่สามารถดูแลตนเองได้ในระหว่างการเดินทางและต้องการความช่วยเหลือพิเศษ เช่น ผู้ป่วยที่ต้องการใช้ยา หรือ อุปกรณ์พิเศษต่าง ๆ ในการเดินทาง เช่น ถังออกซิเจนช่วยหายใจ อันนี้ต้องให้แพทย์วินิจฉัยออกใบรับรองมาด้วย และทางสายการบินก็ต้องพิจารณาเพิ่มเติมอีกด้วยว่า สามารถให้เดินทางได้หรือไม่ เพราะหากไม่สามารถให้อุปกรณ์พิเศษต่าง ๆ เดินทางด้วยได้ ผู้โดยสารก็จะถูกปฏิเสธการเดินทาง

ผู้ป่วยที่มีอาการป่วยและอาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพความกดดันอากาศที่เปลี่ยนไปในระหว่างการทำการบิน อาทิเช่น ผู้ป่วยที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดสมอง หรืออวัยะวะสำคัญอื่น ๆ เช่น ปอด หัวใจ ฯลฯ ผู้ป่วยที่มีภาวะผิดปกติเกี่ยวกับการทรงตัว เช่น น้ำในหูไม่สมดุลย์ ก็ต้องให้แพทย์วินิจฉัยและรับรองการเดินทาง

หญิงตั้งครรภ์ ที่มีอายุครรภ์มากกว่า 28 สัปดาห์ จะต้องมีใบรับรองว่าอายุครรภ์ไม่เกิน 36 สัปดาห์   

สำหรับทารก ต้องมีอายุมากกว่า 14 วัน จึงจะสามารถเดินทางได้นะครับ ขอให้นำใบสูติบัตรมาแสดงด้วย

ผู้โดยสารกลุ่มต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ จำเป็นต้องมีเอกสารการรับรองทางการแพทย์มาแสดง พนักงานเจ้าหน้าที่จึงจะสามารถอนุญาตให้เดินทางได้ครับ

มีผู้โดยสารอีกบางกลุ่มที่เข้าข่ายว่า ไม่สมควรเดินทาง (not fit to fly) อาจไม่ใช่อันตรายด้านสุขภาพและอาจทำให้เกิดสถานการณ์ไม่พึงประสงค์ ได้แก่ 

ผู้โดยสารที่มีปัญหาด้านระบบหมุนเวียนโลหิต มีภาวะความเครียดหรือภาวะจิตที่มีโอกาสทำให้เกิดความวุ่นวายในการเดินทางของเที่ยวบิน 

ผู้โดยสารที่มีอาการมึนเมา หรือเสียการควบคุมในการทรงตัวเนื่องจากการทานยาเกี่ยวกับระบบประสาท 

ผู้โดยสารที่ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สายการบิน อาจไม่ได้ป่วย แต่เป็นผู้โดยสารที่เข้าข่ายต้องห้ามอีกประเภทหนึ่ง เราเรียกว่า Unruly Passenger

การที่ทางสายการบินต้องระงับการเดินทางของผู้โดยสารกลุ่มต่าง ๆ ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น เพราะว่าสายการบินมีหน้าที่จะต้องรักษาผลประโยชน์และสิทธิของผู้โดยสารท่านอื่น ๆ ด้วยครับ การปฏิเสธไม่ให้เดินทางเป็นการกำจัดปัญหาตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อให้เที่ยวบินสามารถเดินทางถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพและลดโอกาสเกิดปัญหาที่ทำให้เที่ยวบินล่าช้า หรือต้องลงฉุกเฉินก่อนถึงที่หมาย อันนี้เป็นหลักปฏิบัติสากลครับ

สุดท้ายนี้ ผมขอให้แจ้งกับสายการบินทุกครั้ง ก่อนเดินทางควรแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 48 ชม. เพื่อที่เราจะได้เตรียมพร้อมในการให้บริการผู้โดยสารได้เดินทางด้วยความสะดวกสบายและถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพครับ

“The majority of in-flight emergencies occur in situations when an individual’s medical condition is unknown to the airline and it is therefore essential that the passenger’s physician sends adequate details well in advance of the flight to the carrier.” (Civil Aviation Authority of United Kingdom)

Tags:

Comments are closed
0
0