Jun 8 เวลามีเหตุการณ์ไม่ปกติบนเครื่องบินผู้โดยสารมักจะไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น นักบินจะต้องเป็นผู้ที่จัดการและแจ้งให้กับลูกเรือและผู้โดยสารรับรู้ข้อมูลของเที่ยวบินว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นและจะต้องทำอย่างไรต่อไป
ในบางกรณีผู้โดยสารก็อาจไม่สามารถรับรู้ได้เพราะนักบินอาจไม่มีโอกาสแจ้งให้ทราบ อาทิเช่น หากบนเครื่องบินได้รับแจ้งว่าถูกคุกคามโดยผู้ก่อการร้าย ในทางปฏิบัติกรณีที่ผู้ก่อการร้ายแฝงตัวอยู่และยังไม่ได้กระทำการใดๆหรือไม่ได้แสดงตัวออกมานั้น นักบินจะไม่แจ้งข้อมูลใดๆให้กับผู้โดยสาร เพราะว่าจะเป็นการกระตุ้นให้ผู้ก่อการร้ายนั้นเร่งกระทำการเร็วขึ้น
บางทีเราอาจเคยได้ยินข่าวทำนองว่า เรื่องบินถูก hijack หรือมีผู้ก่อการร้ายยึดเครื่องบิน บังคับให้เครื่องบินบินไปที่นั่นที่นี่
ถ้าหากว่าเราเผอิญอยู่บนเที่ยวบินนั้นด้วย
เคยคิดไหมว่าจะต้องทำอย่างไรกับสถานการณ์แบบนี้
แน่นอนว่าสถานการณ์แบบนี้ มีอันตราย
การยึดเครื่องบิน ผู้ก่อการร้ายมักมีวัตถุประสงค์แตกต่างกันไป เช่น การต้องการลี้ภัยทางการเมือง การต้องการเรียกร้องอะไรบางอย่าง
หรือถ้าเลวร้ายสุดๆก็คือ ต้องการสร้างความสูญเสียให้มากที่สุดเพื่อประกาศเจตนารมณ์ของขบวนการณ์ก่อการร้าย
เราไม่สามารถคาดเดาได้หรอกครับว่า สถานการณ์จะเป็นหรือดำเนินต่อไปอย่างไร ดังนั้นขอให้พิจารณาถึงความปลอดภัยของตนเองก่อนเป็นอันดับแรกครับ และจะเป็นการช่วยทำให้ทุกคนปลอดภัยด้วย
หากอยู่บนเครื่องบินที่ถูก hijack จริงๆ ขอให้ปฏิบัติดังนี้ครับ
1.ขอให้นั่งนิ่งๆ ควบคุมสติอารมณ์ ไว้ ท่องไว้เลยว่า ต้องสงบสยบความเคลื่อนไหว
2.ทำตัวให้กลมกลืนไปกับผู้โดยสารอย่าทำให้ตัวเองถูกสงสัย
3.รวมถึงการไม่พูดคุยกับผู้โดยสารคนอื่นๆ
4.ไม่ต้องชวนพูดคุยหรือติดต่อกับผู้ก่อการร้ายเพราะการทำแบบนั้นอาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น ไม่ต้องทำตัวให้โดดเด่นออกมา
5.ไม่ต้องทำตัวเป็นฮีโร่แบบในหนังเพราะเราไม่ได้ฝึกมาแบบนั้น
ข้อปฏิบัติเหล่านี้เพื่อที่จะไม่ทำให้ตัวเองตกเป็นเป้าสายตาของผู้ก่อการร้ายหรือ air marshal (ถ้ามี) และจะเป็นการทำให้ตนเองอาจถูกจับเป็นตัวประกัน
ผู้ก่อการร้ายหรือ terrorists นั้นอาจแฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้โดยสาร ไม่ได้แสดงตัวออกมาให้เห็นในคราวเดียว รวมถึง air marshal ด้วยที่ต้องซุ่มดูสถานการณ์เช่นกัน
โดยสถิติการก่อการร้ายที่ผ่าน ๆ มา หลังจากที่พ้นสถานการณ์ไปแล้ว ส่วนใหญ่ผู้โดยสารมักจะปลอดภัยนะครับ
ยกเว้นกรณี 911 ที่จงใจที่จะนำเครื่องบินไปชนตึกหรือก่อความเสียหายแก่สถานที่สำคัญ
แล้วถ้าหากว่าเครื่องบินของเราโดนบินประกบโดยเครื่องบินรบล่ะ (military aircraft interception)
การบินประกบเครื่องบินโดยสารนั้นอาจเกิดจากหลายสาเหตุ
อาทิเช่น การที่บินเข้าน่านฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต บินออกนอกเส้นทาง หรือขาดการติดต่อทางวิทยุสื่อสารในกรอบเวลาที่กำหนดไว้
และการ hijack เครื่องบินก็อาจจะตามมาด้วยการถูก intercepted ได้ด้วยเช่นกัน
(อ่านเรื่อง กัปตันถูกไล่ออกเพราะนั่งหลับ)
เครื่องบินรบที่มาประกบนั้นถูกส่งมาจากไหน
บินอยู่น่านฟ้าประเทศไหน ก็ประเทศนั้นนั่นแหละที่จะเป็นคนส่งเครื่องบินขับไล่ขึ้นมาประกบ (เครื่องบินรบบินเข้าน่านฟ้าประเทศอื่นไม่ได้ ถือว่าเป็นการล่วงล้ำอาณาธิปไตยของประเทศอื่น)
ถ้าหากถูก intercepted ในฐานะผู้โดยสารนั้นไม่ต้องทำอะไรเลยครับ นั่งเฉยๆ ภาวนาว่าทุกอย่างเรียบร้อยและขอให้อยู่ในความสงบ
เพราะโวยวายไปก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมีแต่จะทำให้ยุ่งยากเพิ่มขึ้น
ถึงตอนนี้นักบินก็คงต้องเหนื่อยละครับ
อย่างแรกเลยคือต้องพยายามติดต่อกับเครื่องบินรบที่มาประกบ
หากไม่สามารถติดต่อทางวิทยุสื่อสารได้ก็ต้องปฏิบัติตาม visual signals ของเครื่องบินที่บินมาประกบ (intercepting aircraft)
เครื่องบินที่ถูก intercepted จะต้องทำอย่างไรนั้นก็แล้วแต่ข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองและการตัดสินใจของหน่วยงานความมั่นคงของประเทศนั้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่ก็มักจะบังคับให้ลงสนามบินใดสนามบินหนึ่ง
ถ้านั่งๆอยู่แล้วเห็นเครื่องบินรบที่นอกหน้าต่างก็ปรับเก้าอี้นอนเลยดีกว่าครับ หนังยาวแน่
สั่งซื้อหนังสือผ่าน shopee https://shopee.co.th/apilotbook
ติดตาม A Pilot Club ได้ทาง
ยูทูปช่อง Captain Sopon https://www.youtube.com/c/SoponPhikanesuan
เฟสบุ๊ค https://wwwfacebook.com/apilotbook
เว็บไซต์ http://www.apilotclub.com/
เป็นเพื่อนกับเราทางไลน์ออฟฟิศเชียล https://lin.ee/BQyGDbK
ซื้อหนังสือ A Pilot Book ได้ที่ https://shopee.co.th/apilotbook
