ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศห้ามเดินทางจากยุโรปเข้าสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 30 วัน เพื่อป้องกันประเทศจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา โควิด-19
มีผลตั้งแต่พรุ่งนี้ (ศุกร์ 13 มีนา) แต่ยกเว้นประเทศในเครือจักรภพอังกฤษ
เว็บไซต์ One Mile At A Time ถอดคำแถลงการณ์และสรุปรายงานว่า
President Trump has announced that the US will be banning travel from Europe for 30 days:
- This new restriction will apply starting at midnight on Friday, March 13, 2020 (yay Friday the 13th!)
- The UK is excluded
- This is being done to “keep new cases from entering our shores”
- These restrictions won’t apply to “Americans who have undergone appropriate screenings,” though we don’t yet know what that will look like
- The restrictions will be “adjusted subject to conditions on the ground”
As Trump explains it, this is being done because the US took “early and intense action” to stop the spread of coronavirus, which has caused dramatically fewer cases than are now present in Europe. Because the European Union failed to take the same precautions to restrict travel from China and other “hotspots,” Trump is introducing this policy.
อ่านข้อความเต็มจาก เว็บไซต์ https://onemileatatime.com/trump-bans-europe-travel/
คำว่า PANDEMIC หมายถึงการระบาดไปทั่วโลก โดยองค์การอนามัยโลกจะเป็นผู้พิจารณาประกาศ โดยคำนึงถึงหลักการหลายข้อ และเมื่อวานนี้ (11 มีนาคม) ที่ WHO ได้ประกาศทางทวิตเตอร์ว่า โควิด-19 ระบาดทั่วโ,กรุนแรง PANDEMIC
คำว่า PANDEMIC หมายความว่าอย่างไร
บทความจาก เฟสบุ๊ค SarikaHappyMen ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้ครับ
https://www.facebook.com/sarikahappymen/
WHO ประกาศระดับการกระจายของการระบาด COVID-19 ไปเป็นระดับ Pandemic แล้ว!!
หลายคนคงสงสัยว่าระดับ Pandemic คืออะไร ?
ง่าย ๆ ครับ คือระดับของการระบาดเนี่ย มันจะเริ่มจาก outbreak -> endemic -> pandemic ครับ
ก็คือจากแค่ระบาดไม่กี่เมือง กลายเป็นระบาดไม่กี่ประเทศ และล่าสุดจากการติดเชื้อกันเกือบทุกประเทศ มีคนป่วยเป็นแสน ตายเป็นหมื่น ทาง WHO เค้าก็เลยยกระดับให้กลายเป็นการระบาดระดับโลก หรือ Pandemic นี่แหละครับ
แล้วประกาศทำไม
หลัก ๆ เลยก็คือเพิ่มการเตือนให้แต่ละประเทศ ใช้มาตรการอย่างเต็มที่ ระดมสรรพกำลังทั้งหมดที่มี เพื่อยับยั้งการติดเชื้อให้ได้มากที่สุดครับ อย่างที่เห็นชัด ๆ อเมริกาประกาศให้ทุกเที่ยวบินจากยุโรปห้ามบินเข้าประเทศ หรือหลายประเทศที่มีการแข่งขันฟุตบอล จะต้องทำการเตะแบบห้ามมีคนเข้าไปชมในสนามนั่นแหละครับ
แล้วถามว่าระดับประชาชนอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ จะทำตัวอย่างไรดี ผัวก็ยังไม่มีจะให้ฟรีเลยดีไหม จะตายไหม อะไรงี้
ง่าย ๆ เลยนะครับ
ใช้ชีวิตแบบเดิม เพิ่มเติมคือพิถีพิถันกับมันให้มากขึ้นครับ
ยังไง
ก็คือมาตรการทุกอย่างในการป้องกันตัวเองก็ต้องทำเหมือนเดิมครับ เพียงแต่ต้องเคร่งครัดจริงจังมากขึ้น เพราะตอนนี้มันเป็นการระบาดรุนแรงระดับโลกแล้ว
1.กินร้อน
กินของสุก ๆ เข้าไว้ เพราะจากข้อมูลที่เรารู้ เชื้อโรคมันมาจากสัตว์ ตายง่ายด้วยความร้อน ดังนั้นช่วงนี้เน้นทานอาหารปรุงสุกใหม่ ๆ ไว้ก่อนครับ กินร้อน ๆ ไว้ยกเว้นอย่างเดียวคือแฟนเพื่อน อันนี้ห้ามกิน ปลาดิบ เนื้อย่างแดง ๆ เว้นไว้ก่อนครับ
2.ล้างมือบ่อย ๆ
ที่บอกเชื้อโรคพวกนี้มันอยู่บนพื้นผิวได้นาน ต่อให้มีคนไอเดินลงถนนไป Fab mob แล้ว แต่เชื้อมันก็ยังอยู่ได้ต่อ ดังนั้นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยเจลแอลกอฮอลหรือสบู่ก็ได้ ทำให้มันบ่อยขึ้น จากวันนึงล้างมั่งไม่ล้างมั่ง ช่วงนี้ก็ล้างบ่อยขึ้นกว่าเดิมครับ
3.สวมหน้ากาก
สวมหน้ากากเมื่อตัวเองไม่สบาย หรือเข้าใกล้คนไม่สบาย และเมื่อต้องไปในที่แออัดครับ คือจากเดิมใส่มั่งไม่ใส่มั่ง กลัวจมูกเบี้ยวมั่ง ติดนอมั่ง รองพื้นเลอะมั่ง ตอนนี้ถ้าอยู่ใน 3 ข้อนี้ ต้องใส่แบบเคร่งครัดละครับ คล้องหูให้ดี เจอคนไม่สบายก็ถอยห่าง ถ้าหาได้ก็หน้ากากอนามัย ถ้าไม่ได้ก็หน้ากากผ้าครับ พยายามอย่าใช้หน้าสดเมื่อเข้าที่ชุมชนครับ
4.หลีกเลี่ยงการไปต่างประเทศช่วงนี้
อันนี้แหละครับที่สำคัญสุดของการประกาศเป็น Pandemic คือตอนนี้ทุกประเทศมีผู้ติดเชื้อกันหมดแล้ว การที่เราไปเที่ยวหรือไปตปท นั้น มีโอกาสสูงมากที่เราจะได้รับเชื้อมาโดยไม่รู้ตัว และไม่ต้องสนเลยว่าประเทศไหนไปได้ไปไม่ได้ เพราะเท่าเทียมกันหมด อยู่เมืองไทย เที่ยวเมืองไทยไปก่อนครับ เพราะนอกจากติดเชื้อแล้วดีไม่ดีต้องลุ้นถูกกักตัวที่เมืองนอกอีก อันนี้ไม่สนุกละครับ อยู่เมืองไทยไม่พอใจยังโพสด่าหมอด่าจนท.ในเฟซได้ หรือถ้าพอใจก็ยังแลกไลน์แลกพินไว้ตรวจกันส่วนตัวได้ แต่ไปเมืองนอกไม่สบายขึ้นมานี่ ยิ่งกว่าพลเมืองชั้นใต้ดินเลยนะครับ ฉะนั้นทิ้งตั๋วเหอะ อย่าไปเสียดายเลยครับ
ก็เป็นคำแนะนำง่าย ๆ นะครับ คือตระหนักมากขึ้น แต่ไม่ต้องตระหนก
ใช้ชีวิตให้พิถีพิถันกว่าเดิมมากขึ้น
แล้วเราจะผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกันครับ
- เสือ ควาย หมา “The Right Man”
- Workshop Diversity Management in Organizations for Human Resources
- การจัดการคาร์บอนอย่างยั่งยืนสำหรับภาคธุรกิจ รุ่นที่ 2
- House of Airmanship
- Airmanship
