สำหรับท่านผู้โดยสารที่เดินทางบ่อย ๆ มักจะคุ้นเคยกันดีกับการประกาศของลูกเรือบนเที่ยวบินให้ปฏิบัติบางอย่าง เช่น กรุณาปรับเก้าอี้ให้อยู่ในระดับตรง
การเปิดม่านหน้าต่างในขณะที่เครื่องบินจะทำการวิ่งขึ้นหรือร่อนลงสนามเป็นต้น
การปรับเก้าอี้นั่งให้ตั้งตรงนั้นมีความสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการกระแทกกับเก้าอี้ด้านหน้าครับ
โดยปกติลูกเรือจะประกาศให้ผู้โดยสารปรับที่นั่งให้อยู่ในระดับตรง เมื่อเครื่องบินจะทำการวิ่งขึ้นและก่อนที่จะทำการลงสนามเพื่อที่หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นผู้โดยสารจะไม่เหวี่ยงไปกระแทกเก้าอี้ด้านหน้า และหากจำเป็นที่จะต้องทำการอพยพก็จะสามารถทำได้ทันทีและรวดเร็วโดยไม่มีพนักเก้าอี้ใดเอนนอนอยู่จนเป็นการกีดขวางการอพยพ
seat-back up right
ส่วนเรื่องการปรับม่านหน้าต่างเปิดขึ้นทั้งในขณะที่เครื่องบินจะทำการวิ่งขึ้นหรือร่อนลงสนามนั้น ก็เป็นเหตุผลด้านความปลอดภัยเช่นกัน
ในกรณีฉุกเฉินที่จำเป็นต้องอพยพจะสามารถมองเห็นด้านนอกได้ว่าเป็นอย่างไร และถ้าปิดม่านหน้าต่างไว้หากโครงสร้างของเครื่องบินเกิดบิดเบี้ยวเพราะอุบัติเหตุก็อาจจะทำให้ม่านหน้าต่างไม่สามารถเปิดขึ้นได้
เรื่องม่านหน้าต่างนี้มีอีกเหตุผลหนึ่งที่ประกอบกันกับการเปิดและปิดไฟในขณะที่เครื่องบินจะทำการวิ่งขึ้นหรือร่อนลงสนาม
หากเป็นการบินตอนกลางคืนในระหว่างบินระดับอยู่บนอากาศ ลูกเรือจะปรับไฟในห้องโดยสารให้สว่างเพื่อให้บริการผู้โดยสารได้โดยสะดวกจนกว่าจะบริการเสร็จ พอใกล้ ๆ จะถึงพื้นลูกเรือก็จะลดระดับความสว่างของไฟภายในห้องโดยสารลง และประกาศให้ผู้โดยสารเปิดม่านหน้าต่างไปพร้อมกันด้วย
ถ้าเป็นการบินระดับช่วงเวลากลางวัน แดดจัด ๆ ผู้โดยสารมักจะปิดม่านหน้าต่างลงเพื่อบังแดดไม่ให้ร้อนหรือแสบตา แต่เมื่อถึงช่วงขณะที่จะร่อนลงสนามลูกเรือก็จะประกาศให้เปิดม่านหน้าต่างขึ้น ตรงนี้คือ การปรับสายตาให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของแสงให้ม่านตาของเราปรับสภาพการมองเห็นในสภาวะแวดล้อมของแสงในขณะนั้น
ลองนึกภาพว่า ในเวลากลางคืนหากยังเปิดไฟในห้องโดยสารไว้สว่างจ้าจนกระทั่งถึงพื้นแล้วมีความจำเป็นต้องอพยพ ระบบไฟให้แสงสว่างในห้องโดยสารดับวูบไป สายตาหรือรูม่านตาก็จะเกิดการพร่ามัวไปชั่วขณะ
หากเป็นเวลากลางวัน ทุกคนปิดหน้าต่างกันหมดเพราะแดดร้อน เมื่อต้องอพยพและเปิดประตูหรือหน้าต่าง แดดที่จ้าก็จะทำให้ตาเราพร่ามัวไปชั่วขณะเช่นกัน
การเปิดหน้าต่างยังเป็นการทำให้เราสามารถมองเห็นภายนอกและรับรู้สถานการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้นด้านนอก เช่น หากมีไฟลุกไหม้อยู่ด้านนั้นหรือในบริเวณนั้นก็ทำให้เราสามารถตัดสินใจอพยพไปอีกทางหนึ่งได้ทันที
การเปิดหน้าต่างในระหว่างที่เครื่องบินจะทำการวิ่งขึ้นหรือร่อนลงสนามและการเปิด ปิดไฟจึงมีความสำคัญมากครับทุกคนจึงควรปฏิบัติตามเวลาที่ลูกเรือประกาศนะครับ
ยังมีอุปกรณ์อีกชนิดหนึ่งที่ผู้โดยสารอาจจะไม่ค่อยได้สังเกตหรือให้ความสำคัญเท่าไหร่
ไฟทางออกฉุกเฉินครับ
เมื่ออ่านถึงตรงนี้ ท่านผู้โดยสารเคยสังเกตกันไหมครับ
เวลาเดินทางลองมองไปที่พื้นข้างทางเดินระหว่างที่นั่งดูครับ ท่านจะมองเห็นแถบไฟนำทางเป็นเส้นยาวไปถึงประตูทางออกของเครื่องบิน แถบไฟนำทางนี้จะสว่างขึ้นเองทันทีที่กัปตันมีคำสั่งให้ต้องมีการอพยพออกจากเครื่องบิน
ไฟนำทางนี้จะพาไปสู่ประตูทางออก มันมีความสำคัญและใช้งานกรณีการอพยพเท่านั้นครับ และโดยเฉพาะเมื่อต้องอพยพในเวลากลางคืนไฟนำทางเหล่านี้จะสว่างและเห็นชัดเจนในที่มืด หรือ การอพยพอาจจะต้องก้มลงและคลานไปกับพื้นอย่างเช่น การเกิดมีไฟไหม้และมีกลุ่มควันไฟหนาแน่นภายในห้องโดยสาร การหมอบคลานไปกับพื้นก็จะสามารถคลานตามไฟนำทางนี้ไปสู่ทางออกฉุกเฉินได้ครับ
การรู้จักและเข้าใจเหตุผลของการปฏิบัติต่าง ๆ ทำให้เราเดินทางอย่างปลอดภัยร่วมกันครับ
ดังนั้นทุก ๆ ครั้งที่เดินทางโดยเครื่องบินขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกัปตันและลูกเรือนะครับ
สั่งซื้อหนังสือผ่าน shopee https://shopee.co.th/apilotbook
ติดตาม A Pilot Club ได้ทาง
ยูทูปช่อง Captain Sopon https://www.youtube.com/c/SoponPhikanesuan
เฟสบุ๊ค https://wwwfacebook.com/apilotbook
เว็บไซต์ http://www.apilotclub.com/
เป็นเพื่อนกับเราทางไลน์ออฟฟิศเชียล https://lin.ee/BQyGDbK
ซื้อหนังสือ A Pilot Book ได้ที่ https://shopee.co.th/apilotbook