ทำไมผู้โดยสารจึงบาดเจ็บ
ลองนึกภาพตามนะครับ
ลองใส่เหรียญบาทในขวดแก้วใส ๆ จับวางนอนด้วยสองมือ เสร็จแล้วลองเขย่าครับ
เหรียญบาทก็จะกระทบขวดแก้วเด้งไปมา
ผู้โดยสารที่ไม่ได้รัดเข็มขัด มันก็คล้าย ๆ กับเหรียญบาทนั่นแหละครับ
ทีนี้ลองใหม่ ถ้าเราติดกาวที่เหรียญบาทไว้ภายในขวด เขย่ายังไง เหรียญก็ไม่กระแทกขวดใช่ไหมครับ
ขึ้นเครื่องบินเวลานั่งอยู่กับที่ ให้รัดเข็มขัดนิรภัยเสมอ
โดยเฉพาะเวลานอนก็ต้องรัดเข็มขัดไว้ครับ ปลอดภัยกว่า
กรณีของ Air Canada นั้นมีผู้บาดเจ็บถึง 37 คน และมีถึง 9 คนที่บาดเจ็บสาหัส
https://apnews.com/49db2788d04d4e11bcbb1a63dbae4199
แต่ไม่ใช่ Air Canada ที่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เป็นสายการบินแรก มีสายการบินอื่น ๆ ที่เคยประสบเหตุทำนองนี้มาแล้วหลายราย
สายการบินแห่งชาติของเราเองก็เคยเจอหนัก ๆ เมื่อสมัยที่เครื่องบิน MD-11 ยังบินอยู่ ตอนนั้นกำลังลดระดับลงสนามบินไคตั้ก (สนามบินเก่า) ที่ฮ่องกง
บาดเจ็บไปหลายสิบคนเหมือนกัน แต่ไม่ได้เป็นข่าวคึกโครมเหมือนสมัยนี้ เพราะ20 ปีที่แล้ว facebook, instagram, twitter ยังไม่เกิดและเทคโนโลยีการข่าวยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าปัจจุบัน
เรามาดูสถิติที่เคยเกิดเหตุทำนองนี้กัน
-4 May 2016, an Airbus A330-200 in the cruise in day VMC at FL390 เกิดบริเวณประเทศอินโดนีเซีย บาดเจ็บ 24 คน 7 คนที่บาดเจ็บสาหัส
-18 October 2014, an Airbus A380 เกิดบริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอินเดีย อันนี้โชคดีที่มีการหลบเมฆและได้เปิดสัญญาณรัดเข็มขัดเอาไว้ก่อน แต่ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงที่อากาศใส ๆ ปกติ
-30 December 2015, a Boeing 777-300 เกิดแถว ๆ Alaska บริเวณที่บินผ่านเป็นช่วงที่มี JetStream (มีโอกาสเกิด turbulence ในบริเวณขอบของ JetStream) มีคนบาดเจ็บและเที่ยวบินต้องเปลี่ยนเส้นทางบินลงฉุกเฉิน
-7 January 2017, Bombardier Challenger 600 (CL60) บริเวณตะวันออกกลางกำลังบินอยู่ที่ระดับความสูง 34000 ฟุต และบินผ่านเข้าไปใน wake turbulence ของเครื่องบิน A380 ที่บินสวนทางมาที่ระดับความสูง 35,000 ฟุต ทำให้เครื่อง CL60 เสียการควบคุมของเครื่องบิน หมุนควงสว่านและเสียความสูง แต่นักบินก็สามารถควบคุมเครื่องบินได้อีกครั้งและทำการลงสนามฉุกเฉิน เคสนี้โครงสร้างของเครื่องบินเสียหายเกินกว่าที่จะทำการซ่อมบำรุง สภาพภายในเครื่องบินเป็นตามในรูปประกอบ-ของโพสต์นี้
ส่วนตัวผมเองเคยเจอแรง แต่ไม่แรงมากจนเป็นข่าว
ตอนนั้นบิน Boeing 747-400 ความสูง 39,000 ฟุต บินจากซิดนีย์เข้ากรุงเทพฯ ช่วงผ่านบริเวณประเทศติมอร์ในปัจจุบัน หลบเมฆ CB ก้อนใหญ่ออกมาห่างประมาณ 40 กว่าไมล์ บริเวณที่เกิดอากาศใส ๆ ครับ ตู้มเดียวครับ ความสูงกระเด้งขึ้นไปประมาณ 2,000 ฟุต ก็ค่อย ๆ แก้สถานการณ์ปรับระดับความสูงลงมา
การเกิดแบบนี้ ผู้โดยสารจะไม่ลอยออกจากเก้าอี้ไปกระแทกเพดานครับ แต่จะถูกกดลงไปบนเก้าอี้แทน วันนั้นจึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ น่าจะหลับกันสนิท 🙂
มาทบทวนเรื่อง Turbulence กันครับ (อ่านเรื่องระดับความรุนแรงของ turbulence)
เครื่องบินลอยอยู่บนอากาศได้ด้วยกระแสลมที่ผ่านปีก
การที่จะบินได้ราบเรียบนุ่มนวล
มีองค์ประกอบหลายอย่าง
นอกเหนือจากประสบการณ์และความปราณีตของนักบินในการบังคับเครื่องบินแล้ว
ปัจจัยหลัก คือ สภาพแวดล้อมในขณะนั้น ณ ที่บริเวณที่เครื่องบิน ๆ ผ่าน
เช่น การเปลี่ยนแปลงของความกดอากาศ การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ และการเปลี่ยนแปลงของทิศทางและความเร็วลม เป็นต้น
ถ้าระดับการเปลี่ยนแปลงของ ความกดอากาศ อุณหภูมิ ทิศทางและความเร็วลม มีอัตราการเปลี่ยนไม่มากนัก (Gradually Change)
เครื่องบินสามารถปรับทิศทางการบังคับเพื่อรองรับสถานะการณ์เหล่านั้นได้ไม่ยาก การสั่นสะเทือนจึงไม่รุนแรง
ทางการบินมีการแบ่งระดับการสั่นสะเทือน
เนื่องจากการบินผ่านสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงนี้ว่า Turbulence
ถ้าแปลเป็นไทย ก็ประมาณว่า “ความวุ่นวาย อลหม่าน โกลาหล หรือปั่นป่วน”
Turbulence เกิดได้หลายที่ หลายเวลา และหลายสาเหตุ อย่างเช่น ในก้อนเมฆชนิดต่าง ๆ จะมีความรุนแรงแตกต่างกันเมื่อเครื่องบินบินผ่าน
หรือบางทีอาจเป็น Clear Air Turbulence อากาศใส ๆ ดูเหมือนไม่มีอะไรแต่มีการสั่นสะเทือนเนื่องจากเป็น Ridge or Trough of Pressure Gradient เป็นร่องหรือเป็นสันที่เป็นช่วงที่เกิดการเปลี่ยนของความกดอากาศอย่างมาก (นึกภาพ หุบเหวหรือสันเขา ที่จะถูกแสดงในแผนที่เส้นระดับความสูงแบบแน่นๆ)
นักบินทุกคนจะต้องเรียนรู้เรื่องการอ่านแผ่นที่ และเรียนรู้เรื่องสภาพดินฟ้าอากาศ (Meteorology) โดยเฉพาะเรื่องของเมฆ
เมฆมี อยู่ 10 ชนิด มีเมฆบางชนิด ที่ต้องหลีกเลี่ยง เช่น CB (Cumulonimbus) หรือเมฆฝนฟ้าคะนองที่เราเห็นเป็นแท่ง ๆ สูง ๆ
เมฆ CB อันตรายมาก เนื่องจากความไม่ Stable ของสภาพอากาศ ทั้งในแง่ของ ความกดอากาศ อุณหภูมิ ทิศทางและความเร็วลม ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงของตัวแปรเหล่านี้อย่างมากด้วยเวลาที่รวดเร็ว แต่เมฆ CB นี่ก็ไม่ธรรมดา ด้วยความที่มันก่อตัวขึ้นสูงได้ถึงหลายหมื่นฟุต บางทีมันจึงซ่อนตัวอยู่ในเมฆชนิดอื่น ๆ จนมองด้วยสายตาไม่เห็น เราเรียกกรณีนี้ว่า Embeded CB นักบินต้องใช้เรดาห์ตรวจอากาศ (Weather Radar) ในการตรวจหาระหว่างทำการบิน
ย้อนกลับมาดูผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเราเวลาบินผ่าน Unstable Air
การสั่นสะเทือนหรือ Turbulence แบ่งเป็น 4 ระดับ คือ
Light Turbulence
ผู้โดยสารจะรู้สึกเขย่าเล็กน้อย ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัดมากนัก แค่รู้สึกว่าไม่ราบเรียบ การให้บริการผู้โดยสารยังสามารถทำได้ (ถ้ามั่นใจว่าไม่แรงไปกว่านี้)
Moderate Turbulence
เริ่มมีความรู้สึกไม่สบายในการนั่ง อาจมีการเหวี่ยงแล้วรู้สึกว่าสายรัดเข็มขัดต้องดึงตัวเราติดกับเก้าอี้ไว้ แก้วน้ำเลื่อนเปลี่ยนที่
Severe Turbulence
ผู้โดยสารน่าจะรู้สึกอึดอัดเนื่องจากมีการเหวี่ยงมาก อาจมีตัวลอย ถ้าไม่ได้รัดเข็มขัดนิรภัย (หลายคนคงจับเก้าอื้แน่น) น้ำกระฉอกแล้วหกออกจากแก้ว สิ่งของที่ไม่ได้รัดหรือยึดไว้ให้แน่นจะเคลื่อนย้าย
Extreme Turbulence
อันนี้แรงสุด ๆ นักบินจะไม่สามารถบังคับเครื่องบินได้ เหมือนโดนจับเขย่า สิ่งของในห้องโดยสารก็คงไม่ต้องพูดถึง
และถ้าเครื่องบินต้องอยู่ในสภาพของ extreme turbulence นานเกินไป
อาจเกิดการเสียหายของโครงสร้างเครื่องบิน (Structural Damage) เรียกง่าย ๆ ว่า เครื่องบินแตกหรือหัก
(ขึ้นอยู่กับสถาพความสมบูรณ์ของเครื่องบินและประสิทธิภาพในการซ่อมบำรุงของสายการบินด้วย)
Turbulence อาจหลีกเลี่ยงได้ ด้วยความรู้ ความสามารถ การสังเกตุ ความเข้าใจในข้อมูล และมาตรฐานในการทำการบิน ซึ่งหมายรวมถึง ประสิทธิภาพของนักบินในการทำการบินด้วย
และ Turbulence บางครั้ง อาจยากเกินกว่าที่จะคาดเดาว่า จะเกิดหรือไม่ และจะเกิดเมื่อไหร่ มีความรุนแรงแค่ไหน Turbulence ประเภทที่คาดเดาไม่ได้นั้น เกิดขึ้นไม่มากนัก แต่อาจจะมีความรุนแรงสูงมากกว่าปกติหลายเท่า
ส่วนใหญ่ จะเป็น Turbulence ที่เรารู้และสามารถ detect ได้เราจึงสามารถหลบมันได้อย่างปลอดภัยหรือมีผลกระทบน้อยที่สุด
แต่ turbulence ที่หลบยาก เพราะมองไม่เห็นและมีโอกาสเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงก็คือ clear air turbulence ซึ่งสภาพอากาศที่นักบินมองเห็นคือ ใส ๆ ปกติ ไม่ได้มีตัวบ่งชี้ใด ๆ ว่าจะมีโอกาสเกิดการสั่นสะเทือน ผลที่ตามมาก็คือไม่ได้มีการเตรียมตัวรับมือ การสั่นสะเทือนจะมาอย่างฉับพลัน
และการสั่นสะเทือนอีกแบบหนึ่งก็คือ การบินเข้าไปใน wake turbulence หรือ wake vortices ของเครื่องบินลำหน้า โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในระดับความสูงมากๆ อากาศบาง ความรุนแรงของ turbulence ก็จะแรงตามไปด้วยถ้าความอลวนของอากาศยังมีอยู่มาก การสั่นสะเทือนก็ยิ่งรุนแรง แบบเครื่อง CL60 ที่บินเข้า wake turbulence ของ A380
อ่านข่าวเต็มจาก Dailymail https://www.dailymail.co.uk/news/article-4337974/Jet-caught-wake-superjumbo-nearly-crashes.html
แอดไลน์นี้ครับ LINE Official @a-pilot
https://line.me/R/ti/p/%40a-pilot
สั่งซื้อหนังสือผ่าน shopee https://shopee.co.th/apilotbook
ติดตาม A Pilot Club ได้ทาง
ยูทูปช่อง Captain Sopon https://www.youtube.com/c/SoponPhikanesuan
เฟสบุ๊ค https://wwwfacebook.com/apilotbook
เว็บไซต์ http://www.apilotclub.com/
เป็นเพื่อนกับเราทางไลน์ออฟฟิศเชียล https://lin.ee/BQyGDbK
ซื้อหนังสือ A Pilot Book ได้ที่ https://shopee.co.th/apilotbook