หูอื้อ

หูอื้อ

มีคำถามจากเพื่อนสมัยเรียนมัธยมเขียนถามมาในเฟสบุ๊คว่า “ขึ้นเครื่องจากดอนเมืองไปอุดรรู้สึกหูอื้อช่วงเครื่องขึ้นสักพักก็หาย แต่พอไปได้สักครึ่งทางก็หูอื้อ บางช่วงรู้สึกปวดแก้วหู เราไม่พกหมากฝรั่งเลยใช้วิธีเคี้ยวปาก จนกระทั่งเครื่องลงก็ไม่หาย  กลับถึงบ้านแล้ว 5-6 ชม.ค่อยดีขึ้น 

ปกติขึ้นเครื่องก็ไม่เคยเป็นขนาดนี้นะ จะเป็นเฉพาะเครื่องบินต่างระดับเท่านั้น แต่ครั้งนี้รู้สึกมากขนาดปวดหู ถามน้องที่ไปด้วยก็บอกว่าไม่มีอาการ อยากทราบว่าอาการที่เกิดขึ้นเป็นที่ตัวเราเองรึเปล่าคะ” ขอตอบแบบใช้ความรู้ของนักบินนะครับ

อาการหูอื้อมักเกิดขึ้นช่วงเครื่องบินลดระดับ มากกว่าช่วงเครื่องบินไต่ระดับความสูงขึ้น ช่วงบินขึ้น อากาศภายในห้องโดยสารจะเบาบางลง ความดันอากาศภายในหูจะค่อย ๆ ปรับได้ไม่ยาก ช่วงที่เครื่องบินลดระดับ จะมีการอัดอากาศเข้าในห้องโดยสารเพื่อเพิ่มความกดอากาศให้สัมพันธ์กับความดันอากาศที่อยู่ที่พื้นเมื่อเครื่องบินแตะพื้น หูชั้นในจะต้องปรับความดันเพื่อให้อากาศเข้าไปด้วย ไม่อย่างนั้นจะมีความต่างของความดันเพิ่มขึ้นจะเกิดความรู้สึกหูอื้อ และอาจถึงขั้นปวดหู หากไม่ปรับความดันของหูชั้นในเลยอาจทำให้หูชั้นในได้รับบาดเจ็บฉีกขาดได้

โดยปกติร่างกายจะพยายามปรับตัวอยู่แล้ว และจะส่งสัญญาณเตือนให้เรารู้ด้วยอาการหูอื้อดังนั้น ผมแนะนำว่า การกลืนน้ำลาย หรือการเคี้ยวหมากฝรั่ง ช่วยได้ ถ้าใครกระดิกหูได้ก็ลองทำดูครับ ช่วยเปิดอากาศให้ถ่ายเทเข้าสู่หูชั้นในได้เช่นกัน 

หากเริ่มหูอื้อ จนรู้สึกว่า มีแรงกดเข้าที่หู อาจจะต้องใช้วิธีการที่เรียกว่า Valsalva

Valsalva คือ การที่เราหายใจเข้าลึก ๆ แล้วใช้มือบีบจมูกและเม้มปากไว้ หลังจากนั้นให้ทำเหมือนพยายามเป่าลมออกมา เราจะได้ยินเสียง Air Pop ที่หูของเรา อาจจะต้องทำหลาย ๆ ครั้ง หากยังมีอาการหูอื้ออยู่ ขึ้นเครื่องบินบางครั้ง เป็นบางครั้งไม่เป็น หรือไม่เกิดอาการหูอื้อ อาจจะอยู่ที่ร่างกายของเราด้วยครับ เช่น คนเป็นหวัด หรือมีอาการอักเสบของแก้วหู ที่มีอาการบวมของหูชั้นในอยู่ จะทำให้ความสามารถในการปรับความดันของหูลดลง อาจจะทำให้เกิดอาการหูอื้อ หรือหูดับไปได้หลายชั่วโมง คนที่เป็นอาการหนัก ๆ อาจจะเป็นวัน ๆ แล้วอยู่ดี ๆ ก็จะได้ยินเสียง “Air Pop” เกิดขึ้นเองได้เหมือนกัน แต่สำหรับคนที่อาการหนักมาก อาจมีความเจ็บปวดในแก้วหู อย่างนี้ต้องรีบไปหาหมอครับ เพราะอาจมีอาการบาดเจ็บของหูชั้นในเกิดขึ้นครับ อ้อ อีกอย่างหนึ่งครับ การที่เราหลับระหว่างที่เครื่องลดระดับความสูง จะทำให้เกิดอาการหูอื้อได้ง่ายกว่า

ผมเคยแนะนำเพื่อนไปเหมือนกันว่า ถ้าเรามีลูกเล็ก ๆ เดินทางไปกับเราด้วย ไม่ควรให้เด็กนอนหลับในช่วงลดระดับ โดยเฉพาะเด็กทารกที่ยังพูดไม่ได้ เพราะเด็กทำ Valsava ไม่เป็น เขาจะตื่นขึ้นมาเพราะหูอื้อ แล้วเริ่มร้องไห้งอแง เพราะมันคือการบอกว่าเขากำลังไม่สบาย หูอื้อ

การร้องไห้ของเด็กทารก ก็น่าจะเป็นการพยายามปรับความดันในหูชั้นในด้วยเช่นกันครับ

Tags:

Comments are closed
0
0